สมศรี อรุณินท์ เมื่อปี พ. ศ.
ที่มา เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ เผยแพร่ วันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม พ. ศ.
เราอาาจะเคยได้ทาน ผักชะอม กันตามเมนูเด็ดอย่างไข่เจียวชะอม หรือเป็นแกงเมนูอีสานต่างๆ โดยชะอมนิยมบริโภคในส่วนที่เป็นยอดอ่อนกัน ชะอมนั้นมีรสชาติและกลิ่นที่เฉพาะตัวอีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างโดยที่น้อยคนนั้นจะรู้ วันนี้เราจะมาแนะนำประโยชน์ของเจ้าชะอมให้ฟัง แต่ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักลักษณะของชะอมกันก่อน 1. ชะอมเป็นไม้พุ่มขนาดย่อม ลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลม 2. ใบมีสีเขียวขนาดเล็ก มีก้านใบแยกเป็นใบอยู่ 2 ทาง ลักษณะคล้ายใบกระถิน หรือใบส้มป่อย 3. ใบเรียงสลับกัน ใบย่อยออกตรงข้ามกัน ใบย่อยรูปรีมีประมาณ 13-28 คู่ ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม โดยใบจะหุบในเวลาเย็นและแผ่ออกรับแสงแดดในเวลากลางวัน 4. ใบอ่อนจะมีกลิ่นฉุนคล้ายกลิ่นลูกสะตอ 5. ดอกมีขนาดเล็ก ออกที่ซอกใบ มีสีขๅวหรือขๅวนวล ซึ่งจะเห็นเกสรตัวผู้มีลักษณะเป็นเส้นฝอย ๆ ได้ชัด 6. ผลออกเป็นฝักและมีขนาดเล็กกว่าฝักกระถิน 7. เป็นพรรณไม้ที่ปลูกง่ายและสามารถปลูกได้ทุกจังหวัดของประเทศไทย 8. ขยายพันธุ์ได้โดยการตอนหรือปักชำ โดยชะอมจะออกยอดได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะออกมาก 9. การนำชะอมมาปรุงเป็นอาหารทำได้หลากหลาย ได้แก่ รับประทานเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก หรือไปทำเป็นแกงอ่อม ประโยชน์ของชะอม 1.
5 กรัม คาร์โบไฮเดรต 5. 9 กรัม โปรตีน 2. 5 กรัม กากใยอาหาร 2. 2 กรัม ความชื้น 87. 7 กรัม วิตามินเอ 3, 338 หน่วยสากล วิตามินบี 1 0. 13 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 0. 26 มิลลิกรัม วิตามินซี 51 มิลลิกรัม แคลเซียม 62 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 2.