การรับประทานเมล็ดแมงลักแห้ง จำนวนมาก อาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำ ปากแห้ง คอแห้ง และกระหายน้ำ เนื่องจาก เมล็ดจะดูดซับน้ำในระบบทางเดินอาหาร ดังนั้น การรับประทานเมล็ดแมงลักจะต้องให้สัมผัสกับน้ำจนพองตัวเสียก่อนก่อนจะรับประทาน การปลูกแมงลัก รอเพิ่มข้อมูล เอกสารอ้างอิง 1. สถิระ หิรัญ, 2544. การพัฒนาสูตรบะหมี่สดเสริมเยื่อเมือกเมล็ดแมงลัก. 2. ปฐม จูจันทร์, 2544. ประสิทธิภาพยาทากันยุงในรูปแบบเจลจากน้ำมันหอมระเหยแมงลักและน้ำมันหอมระเหยผิวมะกรูด.
8 วิธีง่ายๆที่ทำให้ผิวขาวใสโดยไม่ต้องพึ่งยา! Beauty, ดูแลผิว, ทำยังไงให้ขาว, ขาว, ผิวขาว, กินอะไรขาว, ขัดผิว, มะเขือเทศ, ส้ม, มะนาว, วิตามินซี, คอลลาเจน, ผลไม้, กลูต้า, มะขาม, ขับถ่าย, ครีมกันแดด, มาส์กหน้า, ทาครีม, ดูแลผิว, ขาวกรจ่างใส, ผิวสวย, ผิวใส
การศึกษาผลของการรับประทานเมล็ดแมงลักที่มีต่อระดับน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยให้เมล็ดแมงลักปริมาณ 30 กรัม เป็นเวลา 1 เดือน พบว่า ผู้ป่วยสามารถทนต่อระดับการเปลี่ยนแปลงของน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น 2. การศึกษาให้ผู้พักฟื้นหลังการผ่าตัดต่อมลูกหมาก และนิ่วในไตรับประทานเมล็ดแมงลักที่มีต่อภาวะท้องผูก เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับ พบว่า กลุ่มผู้ที่รับประทานเมล็ดแมงลักมีอาการท้องผูกน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน 3. การศึกษาการรับประทานเมล็ดแมงลักที่มีผลต่อปริมาณโคเลสเตอรอลชนิด HDL ที่ช่วยป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด พบว่า พบที่รับประทานเมล็ดแมงลักจะมีปริมาณโคเลสเตอรอลชนิดนี้มากกว่าขึ้นกว่าเดิมเมื่อเปรียบเทียบก่อนรับประทาน 4. การศึกษาการให้เมล็ดแมงลักปริมาณ 2 ช้อนชา โดยผสมกับน้ำ 240 ซีซี มีผลทำให้การระบายอุจจาระเป็นปกเมื่อเทียบกับการให้สาร psyllium 2 ช้อนชา 5. การศึกษาทดสอบสารสกัดจากใบแมงลักในประเทศอินเดียต่อฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน พบว่า สารสกัดใบแมงลักมีประสิทธิภาพเป็นสารต้านออกซิเดชันได้ ข้อเสนอแนะ 1. การใช้เมล็ดแมงลักเพื่อให้เกิดสีในอาหารไม่เป็นที่นิยม เนื่องจาก อาหารที่ผสมสีจากเมล็ดแมงลักจะเปลี่ยนไปจากเดิม โดยอาหารจะเปลี่ยนเป็นสีดำมากขึ้น ทำให้อาหารไม่น่ารับประทาน 2.
5 cm x 6 cm- หลังยืด > กว้าง x ยาว: 2.
Sim. • ชื่อพ้อง: O. americanum Linn. • ชื่ออังกฤษ: – Labiatae – Hairy Basil • ชื่อท้องถิ่นไทย: ภาคกลาง และทั่วไป – แมงลัก – มังลัก – ขาวมังลัก อีสาน – ผักอี่ตู่ เหนือ – กอมก้อขาว ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ราก และลำต้น แมงลัก เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุไม่ถึง 1 ปี ลำต้นสูงประมาณ 30-50 ซม. ลำต้น และกิ่งมีรูปค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยม ลำต้นแตกกิ่งตั้งแต่ระดับล่าง เปลือกลำต้น และกิ่งมีสีเขียวอ่อน และค่อนข้างบาง ส่วนราก มีระบบรากเป็นรากแก้ว และรากฝอย รากสามารถหยั่งลึกได้มากกว่า 30 ซม. ใบแมงลัก ใบแมงลัก แทงออกเป็นใบเดี่ยว และออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน โดยพบใบแทงออกทั่งบนลำต้น และกิ่ง ใบมีสีเขียวสด มีก้านใบยาวประมาณ 2. 5 ซม. รูปร่างของใบมีรูปวงรีหรือรูปหอก ใบยาวประมาณ 2. 5-5 ซม. กว้างประมาณ 1-2. ปลายใบค่อนข้างแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ และมีขนอ่อน และสั้นปกคลุมทั่วใบ ภายในใบมีต่อมที่ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยจำนวนมาก ดอก ดอกแมงลัก จะออกดอกเป็นช่อ มีช่อดอกยาวประมาณ 5-15 ซม. แบ่งเป็นข้อๆ ส่วนก้านช่อดอกยาวประมาณ 2. โดยมีดอกออกเป็นกระชุกชิดกัน กระจุกละประมาณ 3 ดอก และออกบริเวณข้อ ข้อละประมาณ 2 กระจุก โดยดอกประกอบด้วยใบประดับรูปวงรี ยาวประมาณ 2-3 มม.
ขายผลิตภัณฑ์ทางกายภาพ สิ่งทอ, ซองโทรศัพท์มือถือ, การ์ดอวยพร, โปสการ์ด, ปฏิทิน, ถ้วย, เสื้อยืด ขายออนไลน์ วอลล์เปเปอร์มือถือเทมเพลตการออกแบบองค์ประกอบการออกแบบเทมเพลต PPT และใช้การออกแบบของเราในองค์ประกอบหลักเพื่อขายต่อ ภาพเหมือน ใช้ในเชิงพาณิชย์ (สำหรับการเรียนรู้และการสื่อสารเท่านั้น) ใช้แบบไวต่อภาพบุคคล (ยาสูบ, การแพทย์, ยา, เครื่องสำอางและอุตสาหกรรมอื่น ๆ) (Contact customer service to customize) (Contact customer service to customize)
56 mcg. ที่สูงกว่ากะเพราและโหระพา แต่กรมส่งเสริมการเกษตรระบุว่ามี วิตามินเอ 9, 164 IU และ วิตามินบี 2 0. 14 mg. ซึ่งน้อยกว่ากะเพราและโหระพา แต่มีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่สูงกว่า เช่น ธาตุแคลเซียม 350 mg. ธาตุฟอสฟอรัส 86 mg. ธาตุเหล็ก 4. 9 mg. วิตามินซี 78 mg. และวิตามินบี 1 0.