ตอบได้เลยว่าจำเป็นต้องมี SSD หรือ Harddisk เอาไว้ลง Windows 10 และเก็บข้อมูล เอาไว้ลงเกม หรือโปรแกรมต่างๆ ส่วน Intel Optane Memory จะมาทำหน้าที่พักข้อมูล (Cache) แทรกอยู่ระหว่าง RAM กับ Harddisk บทสรุป แล้วพีซี / โน้ตบุ๊กจะเปลี่ยนไปหลังจากใช้งาน Intel Optane Memory แน่นอนว่าได้สัมผัสความเร็วในการเปิดเครื่องพร้อมใช้งาน เปิดโปรแกรมได้อย่างรวดเร็ว และมีพื้นที่จัดเก็บไฟล์ข้อมูลขนาดใหญ่กับฮาร์ดดิสก์เช่นเดิม ที่สำคัญใช้งบประมาณไม่สูง คุ้มค่ากว่าที่จะต้องเปลี่ยนไปใช้ SSD ความจุสูงทั้งหมด
คำตอบก็คือกลุ่ม Ultrabook ที่มีพื้นที่การติดตั้ง Slot M. 2 ที่จำกัด ซึ่งถ้าจะใส่ NVMe SSD เพียวๆที่ความจุเท่ากันก็อาจจะมีราคาที่สูงเกินไป ทางเลือกใหม่จากทาง Intel นี้จีงเป็นทางเลือกที่อยู่กึ่งกลางนั่นเองครับ ด้วยความที่ SSD ประเภทที่ใช้ QLC นั้นราคาไม่สูงเท่าไหร่ด้วย.. ส่วนทางฝั่ง Desktop ยังไงก็คงไม่เหมาะสมกับโปรดัสก์ประเภทนี้อยู่แล้ว Intel จึงไม่ได้ทำมันออกมาขายให้ใครก็ซื้อได้ แต่ว่าจะเป็นการขาย Supply ให้กับผู้ผลิต Ultrabook ทั้งหลายไปติดตั้งในเครื่องของตัวเองก่อนออกวางจำหน่ายเท่านั้นเองครับ Tags: intel optane storage ssd
5" เลยด้วยซ้ำ ทำให้ Intel นั้นไม่สามารถยัด Optane Memory เข้าไปเสริมประสิทธิภาพให้กับ Storage หลักของตัวเครื่องได้ ทีนี้ก็จับมันมารวมกันแบบนี้เลย จะได้ไม่ต้องใช้พื้นทีอ่ะไรมากมาย เรื่องขนาดก็จะมีตั้งแต่ 256GB ไปจนถึง 1TB โดยรุ่น 256GB นั้นจะมากับ Optane Memory ขนาด 16GB ส่วนรุ่น 512GB และ 1TB จะมากับ Optane Memory ขนาด 32GB และทั้งสามรุ่นจะเป็น M. 2 2280 แบบหน้าเดียว (Single-Sided) พื้นที่ครึ่งนึงของตัวการ์ดก็จะเป็น Optane Memory Controller, Media และ PMIC ส่วนอีกครึ่งนึงก็จะเป็น Controller จากทาง Silicon Motion SM2263, DRAM และ QLC NAND.. การใช้งานของตัวการ์ดก็จะวิ่งบน Interface แบบ PCI-e 3.
59/75. 36 MB/s ครับ AS SSD อีกหนึ่งโปรแกรมที่ผมนิยมใช้ คือ AS SSD ซึ่งอันนี้ต้องบอกเลยว่า วิธีการวัดมันจะต่างจากของ CrystalDiskMark ในระดับของชนิดไฟล์ที่เอามาประเมิน แต่ในจุดที่ผมอยากให้โฟกัสคือค่าการอ่านเขียนบล็อก 4k ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงความเร็วในการทำงานร่วมกับไฟล์ขนาดเล็ก จะอยู่ที่ 65. 05/94.
อินเทลเปิดตัวเทคโนโลยี 3D XPoint โดยระบุว่าเป็นเทคโนโลยีหน่วยความจำแบบใหม่ในรอบหลายสิบปีที่จะเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ไปอย่างมาก แต่จนตอนนี้นอกจากตัวเลขประสิทธิภาพแล้ว ข้อมูลอื่นๆ ก็ยังไม่ได้เปิดเผยออกมามากนัก วันนี้ที่งาน IDF2015 Bill Liszenske ผู้บริหารอินเทลที่ดูแลฝ่ายหน่วยความจำถาวร (non-volatile memory) ก็พูดคุยกับสื่อถึงประเด็นของเทคโนโลยีนี้ ผมรวบรวมคำถามที่น่าสนใจมาไว้ในบทความนี้
ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นของ Intel Optane Memory ผสานการทำงานกับชิปเซ็ทบนเมนบอร์ดที่รองรับ จะช่วยให้การเปิดโปรแกรมต่างๆ จะทำได้เร็วขึ้น และที่สำคัญตัวข้อมูลที่พักไว้จะไม่สูญหายไปเมื่อจะปิดเครื่องไป ทำให้การเปิดใช้งานโปรแกรมครั้งต่อๆ ไป ยังตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วเหมือนเดิม ใครที่ได้ประโยชน์จาก Intel Optane Memory -ผู้ใช้งานทั่วไป จะได้สัมผัสการตอบสนองที่ฉับไวในการทำงานทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการบูตเครื่องได้เร็ว, เปิดโปรแกรมได้ฉับไว และโหลดไฟล์ต่างๆ ได้รวดเร็วมากขึ้นได้เร็วขึ้น 2. 1 เท่า -เกมเมอร์ ได้รับความเร็วในการโหลดเกม หรือการโหลดฉากต่างๆ ได้เร็วขึ้นสูงสุด 98% -กลุ่มคนทำงานตัดต่อวีดีโอ ที่ยังต้องมีความจำเป็นใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์เก็บไฟล์งาน ก็จะช่วยให้โหลดไฟล์มีเดียมาใช้ในการตัดต่อได้เร็วขึ้นกว่า 2. 6 เท่า ประสิทธิภาพของ Intel Optane Memory อยู่ตรงไหนเมื่อเปรียบเทียบในระบบของคอมพิวเตอร์ แล้ว RAM (Random Access Memory) ยังมีความจำเป็นต้องใช้งานอยู่หรือไม่? แม้ว่า Intel Optane Memory จะมีความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลด้วยความเร็วสูง แต่ก็ยังพัฒนาบนพื้นฐานของ SSD อยู่ ซึ่งยังเทียบกับความเร็วของ RAM ไม่ได้ และที่สำคัญไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทดแทน RAM เพียงแต่ออกแบบมาให้ทำงานประสานช่องว่างระหว่าง RAM > Intel Optane Memory > Harddisk หรือ SSD โดยตัวมันจะพักข้อมูลไว้เพื่อให้เรียกใช้งานข้อมูลได้เร็วขึ้น ถ้าใส่ Intel Optane Memory ต้องใส่ SSD อยู่มั้ย?
รีวิว Intel Optane Memory 16GB ลองจริง เล่นจริง แรงจริง - YouTube
ทดสอบ Intel Optane Memory คู่ SSD: ดีไหม หรือ ไม่ใส่ดีกว่า? - YouTube