ความคิดเห็นที่ 3 เอาในทางปฏิบัติก็แล้วกันนะคะแล้วรอดปลอดภัยทั้งคู่ นิติบุคคลที่มีหน้าที่จัดทำบัญชีใด เงินสดเหลือเยอะ ก็จะบันทึกบัญชีให้กรรมการยืมไป (หรือยืมกันจริงๆ ก็ได้ค่ะ เหมือนกัน) จะมีเงินสดจริงหรือไม่ก็ตาม เมื่อสิ้นเดือน หรือ สิ้นปี ก็จะมีการคิดดอกเบี้ยรับจากเงินกู้ยืมกรรมการตั้งไว้ แต่เมื่อสะสมไว้เยอะแล้ว ก็ต้องทำรับดอกเบี้ยเงินยืมกรรมการด้วย และรับเดือนไหนก็ต้องนำส่ง ภธ. 40 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป เหมือน ภพ. 30 แล้วเลือกรายได้ช่องที่เขียนว่า ประกอบการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ แล้วติ๊กช่อง ไม่ต้องจดทะเบียน แล้วใส่ยอดเงินไปเลย คำนวณ 3% ไปก่อน แล้วข้างล่างรายได้ท้องถิ่นอีก. 3% แล้วยื่น แค่นี้สรรพากรและงบการเงินก็ไม่มีปัญหาแล้วค่ะ lalin087
HIGHLIGHTS สถานประกอบการจะมีเงินให้กู้ยืมแก่กรรมการ 2 กรณีคือ กรณีคิดดอกเบี้ยกันจริง และไม่ได้คิดดอกเบี้ยกันจริง โดยกรณีไม่ได้คิดดอกเบี้ยกันจริงปัจจุบันมักจะปรับปรุงดอกเบี้ยในแบบ ภ. ง. ด. 50 แทน และการที่ปรับปรุงเข้าไปใน ภ.
Skip to content บริษัท ปังปอน จำกัด รับทำบัญชี โทร. 081-931-8341 บทความ บัญชี ภาษี ประกันสังคม การเงิน การค้า แบบฟอร์ม คลังข้อมูล ศัพท์บัญชี รายงานการประชุม แบบฟอร์มบัญชี หนังสือสัญญา สรรพากร เว็บข่าวสาร จดทะเบียน ทำบัญชี เงินกู้ยืมกรรมการ ให้ยืมเงิน ไม่ คิดดอกเบี้ย บันทึกบัญชี เงินกู้ยืมกรรมการ เงินให้กู้ยืมกรรมการ หมายถึง เงิ … เงินกู้ยืมกรรมการ ให้ยืมเงิน ไม่ คิดดอกเบี้ย บันทึกบัญชี Read More »
ภาษีธุรกิจเฉพาะ ธุรกิจเฉพาะเป็นภาษีทางอ้อมประเภทหนึ่งที่จัดเก็บจากการบริโภค และเริ่มบังคับใช้เมื่อ พ. ศ.
1 วรรคแรก ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท. ป. 1/2528) 1. 2 การคำนวณรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งประกอบกิจการประกันชีวิต กิจการธุรกิจบัตรเครดิต หรือกิจการอื่นทำนองเดียวกัน โดยทั่วไปให้ใช้ "เกณฑ์สิทธิ" ในการรับรู้รายได้รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล เว้นแต่รายได้ส่วนที่เป็นดอกเบี้ยสำหรับระยะเวลาหลังจากที่ได้ผิดนัดชำระติดต่อกันเป็นเวลาเกินหกเดือน เมื่อเข้าหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (ข้อ 3. 1 วรรคสอง ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท. ป. 1/2528) (1) คาดหมายได้แน่นอนว่าจะไม่สามารถได้รับชำระหนี้ และ (2) มีกรณีแสดงให้เห็นชัดแจ้งว่า ลูกหนี้ไม่มีเงินหรือทรัพย์สินเพียงพอที่จะชำระ เช่น (ก) มีหลักประกันไม่คุ้มกับหนี้ที่ต้องชำระ (ข) ลูกหนี้ดำเนินธุรกิจขาดทุนติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี หรือเลิกกิจการแล้ว หรืออยู่ระหว่างการชำระบัญชี (ค) ได้ดำเนินคดีแพ่งหรือได้ยื่นคำขอเฉลี่ยหนี้แล้ว (ง) ได้ดำเนินคดีล้มละลาย หรือได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้ว 1. 3 สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่น ที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงิน บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ตามข้อ 1.
ศ. 2535 เลขตู้: 61/27341
ภาษีธุรกิจเฉพาะ ( อังกฤษ: specific business tax) เป็นภาษีทางอ้อมที่เก็บจากฐานบริโภคทั่วไปภายในประเทศไทย โดยจะจัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง และเริ่มใช้บังคับใน พ. ศ. 2535 พร้อมกับ ภาษีมูลค่าเพิ่ม แทน ภาษีการค้า ที่ถูกยกเลิกไป {{ภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ บุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ 1. การธนาคาร 2. การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ 3. การรับประกันชีวิต 4. การรับจำนำ 5. การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ 6. การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นการค้าหรือหากำไร 7. การขายหลักทรัพย์ 8. การประกอบกิจการอื่น การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ 1. กิจการที่ประกอบธุรกิจที่เหมือนกับธุรกิจเฉพาะบางประเภท ซึ่งได้รับการ ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะมีดังต่อไปนี้ 1) กิจการของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2) กิจการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 3) กิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์ เฉพาะการให้กู้ยืมเงินแก่สมาชิกหรือแก่สหกรณ์ออมทรัพย์อื่น 4) กิจการของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5) กิจการของการเคหะแห่งชาติ 6) กิจการรับจำนำของกระทรวง ทบวง กรม และราชการส่วนท้องถิ่น 7) กิจการตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 240) พ.
0 นั้น หากบริษัทฯ ถือหุ้นใน YY ไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงใน YY เป็นเวลาไม่น้อยกว่าหกเดือนก่อนวันที่มีการกู้ยืม ย่อมถือได้ว่า เป็นกรณีที่บริษัทในเครือเดียวกันให้กู้ยืมเงิน กันเอง ซึ่งบริษัทฯ ไม่ต้องนำดอกเบี้ยที่ได้รับจากการให้กู้ยืมดังกล่าว ไปรวมคำนวณเป็นรายรับเพื่อเสียภาษี ธุรกิจเฉพาะ กรณีเทียบได้กับแนวปฏิบัติที่กรมสรรพากรได้วางไว้ตามข้อ 2 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 26/2534ฯ ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ. ศ.